วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ปมปฐพีแตกของ ทรงผมชาย ที่หัวโล้น!!

ชายหัวโล้น พร้อมทั้ง ทรงผมชาย

อุปสรรคโลกแตกของ ทรงผมชาย ที่หัวล้าน!!


ทรงผมชาย






     วันนี้จะมานำนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับทรงผมชายทรงหนึ่งซึ่ง ทรงผมชาย ที่จะทำนูลต่อไปนี้ เป็นทรงที่ไม่จำเป็นต้องออกแบบอะไรให้มากความ หรือ เรียกง่ายๆว่าเป็น ทรงผมชาย ที่ไม่มีหนุ่มน้อยคนใดอยากให้อุบัติขึ้นกับตนเอง 

     ลูกผู้ชายจำนวนนับพันนับล้านคนที่มีเศียรล้าน มองมองตนเองในกระจกแล้วเกิดกระทู้ถามขึ้นมาในใจว่า...ทำไม...ผมของเรามันถึงได้หลุดร่วงบางลงไปทุกวันๆ  ทำไมคนอื่นเขามี ทรงผมชาย ที่หล่อๆเท่ๆดกดำกันได้   แต่เรากลับกลายเป็นคนศีรษะล้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้    ซึ่งผมเชื่อว่า มีตัวเลขคนนับไม่น้อยที่เกิดปัญหากับทรงผมของตนเองนี้  ทำให้มีผลกระทบกระเทือนต่างๆตามมาอย่างมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นชีวิตในการทำงาน หรือ การออกสังสรรค์ในสังคม รู้สึกเคอะเขินและไม่อยากประจันหน้ากับผู้อื่น ทำให้ไม่มีความเด็ดเดี่ยวในตนเองและส่งผลกระทบกระเทือนต่างๆตามมาอย่างมากมาย   ซึ่งผิดกับคนที่มีทรงผมชาย ที่สามารถดันบุคคลิกได้เป็นอย่างดี     

     ต้องขอชื่นชมเหล่าหมอแห่งรัฐฟลอริดา เพราะได้ศึกษาค้นคว้าหาข้อสรุปของผู้ชายที่มีอาการศรีษะล้านไม่มี ทรงผมชาย ที่ดกดำแบบผู้อื่น    ซึ่งการมีผลงานวิจัยออกมาครั้งนี้อาจเป็นแนวทางในการอนุรักษ์เยียวยาอาการศีรษะล้านได้     อย่างที่เรารู้กันว่าฮอร์โมนเพศชายที่ชื่อ เทสโทสเตอโรน (testosterone) เป็นต้นสายปลายเหตุหนึ่งที่ทำให้เส้นผมหลุดร่วง แต่ข้อมูลนี้ก็ยังไม่ชัดเจนนัก  กระทั่ง มาร์ตี้ ซาวายา ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังและคณะนักวิจัยแห่งโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยไมอามี  ได้ตะแหง่วๆวิจัยค้นหาคำตอบถึงปัญหาศรีษะล้านให้กระจ่าง โดยทำการเล่าเรียนทดลองตัวอย่างหนังศีรษะจากผู้ชายจำนวน 60 คน

     แล้วพวกเขาก็พบว่า ตรงเซลล์รากทรงผมชายนั้นมีโปรตีนอยู่ 2 ชนิด 
ชนิดแรกคือมีโมเลกุลขนาดเล็ก และอีกชนิดมีโมเลกุลขนาดใหญ่ โปรตีนทั้งสองนี้มีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนด้วย  และเมื่อใดที่โมเลกุลของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้ผสมเชื่อมกับโปรตีนที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก มันจะพากันเข้าไปภายในเซลล์รากเส้นผม และตัดส่วนที่ผลิตเส้นผม แต่ถ้าหากโมเลกุลของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเชื่อมกับโปรตีนที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มันจะเกาะกันอยู่แค่ภายนอกเซลล์รากผม ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด

     ทีมผู้วิจัยได้ทำการเปรียบกับเซลล์หนังศรีษะบริเวณที่ล้านโล่งกับบริเวณทรงผมชายที่มีเส้นผมดกดำเต็มในตัวผู้ชายคนเดียวกัน และได้ข้อสรุปว่า ตรงส่วนหนังศีรษะที่ล้านโล่งนั้นมีโปรตีนขนาดเล็กปรากฏมากกว่าตรงส่วนที่เส้นผมขึ้นเต็ม บริเวณที่มีผมบางๆ หรือไม่มีผมเลยนั้น มีโปรตีนขนาดเล็กมากเป็นสองเท่าของโปรตีนขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน เซลล์รากเส้นผมที่แข็งแรงก็มีโปรตีนขนาดใหญ่อยู่ประมาณ 2 ½ เท่า ซาวายากล่าว


     และมีคำถามต่อมาอีกว่า การที่คนเราจะมีศีรษะล้านนั้น บริเวณใดที่จะล้านก่อนเป็นอันดับแรก และเร็วหรือช้าแค่ไหน

     ซาวายากล่าวว่า  จะเป็นส่วนบริเวณที่ล้านจะอยู่ตรงที่เซลล์รากเส้นผมที่เชื่อมเกาะติดโปรตีนขนาดเล็ก ส่วนจะล้านเร็วหรือช้าโดยส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณของโปรตีนทั้งสองชนิดที่แต่ละคนได้รับถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ตามพันธุกรรม ถ้าใครที่พ่อแม่ศีรษะล้านตรงไหน ลูกชายก็มักจะล้านตามตรงส่วนนั้น  และส่วนของผู้หญิงนั้นซาวายากล่าวว่า ผู้หญิงจะไม่ล้านอย่างเด็ดขาด อย่างมากแค่มีผมบางเท่านั้น

คณะนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยไมอามี ได้สรุปผลและบอกแนวทางแก้ไขรักษาอาการศีรษะล้านที่มีทางเป็นไปได้ นั่นคือ ต้องหาบางบางอย่างมาสกัดกั้นไม่ให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเซลล์รากเส้นผมที่แข็งแรงมาเชื่อมผสานกับโปรตีนขนาดเล็ก ซึ่งเป็นกลไกที่ทำให้เซลล์ผลิตเส้นผมไม่ได้   เรายังคงต้องศึกษาต่อไป


สุดท้ายนี้ผมก็อยากจะเป็นกำลังใจให้ผู้ชายที่ประสบปัญหากับเกศล้านอยู่ว่า อย่าไปกลัว อย่าไปเก้อเขินขอแค่เรามีความเด็ดเดี่ยวและรอเทคโนโลยีต่างๆพัฒนามากขึ้นซึ่งผมมั่นใจว่า ในภายภาคหน้าเราต้องได้รับประกาศดีมาให้เป็นรางวัลของคนที่มีศรีษะล้าน ให้กลับมามีทรงผมชายที่ดกดำอย่างแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น